Q : ปลูกผมเจ็บมากไหม?
A : เจ็บเล็กน้อยตอนที่เริ่มฉีดยาชาเฉพาะที่ แล้วแพทย์จะรอจนยาชาออกฤทธิ์จึงเริ่มทำ ดังนั้นขณะที่ทำจะไม่รู้สึกเจ็บ
Q : โบท็อกซ์สามารถลบรอยย่นได้ทุกจุดบนใบหน้าหรือไม่?
A : ไม่ใช่รอยย่นทุกชนิดที่จะสามารถรักษาได้ด้วยโบท็อกซ์ โบท็อกซ์สามารถลดรอยย่นที่เกิดจาก การเกร็งตัวของกล้ามเนื้อได้เท่านั้น แต่รอยเหี่ยวย่นที่เกิดจากการที่ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น จากความชรา จะไม่สามารถช่วยลดได้ อาจต้องไปใช้สารอย่างอื่นแทน ซึ่งแพทย์ผู้ เชี่ยวชาญเท่านั้น จึงสามารถแยกได้ออกว่ารอยย่นแบบใดที่โบท็อกซ์ช่วยได้จึงควรไปฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญ เท่านั้น
Q : โปรแกรมรักษาสิวมีอะไรบ้าง?
A : สำหรับโปรแกรมรักษาสิวของทางคลินิกมีคอร์ส Acne Solution ในโปรแกรมประกอบด้วย 1.Medlite / Xeo Laser เลเซอร์รักษารอยดำ/รอยแดง 5 ครั้ง 2.Acne Clear ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดออก หัวสิวนิ่มขึ้นและสามารถกดออกได้ง่ายขึ้น 5 ครั้ง 3.Cold Mask มาร์คลดการระคายเคือง ลดการอักเสบ 5 ครั้ง 4.กดสิวหรือฉีดสิว 5 ครั้ง
Q : Botox ของทางคลีนิกใช้ยี่ห้อไหน?
A : Botox ของทางคลินิกใช้ Botox ยี่ห้อ Dysport จากประเทศอังกฤษ และ Xeomin จากประเทศเยอรมันค่ะ
Q : โปรแกรมปรับรูปหน้าของทางคลีนิกมีอะไรบ้าง?
A : โปรแกรมปรับรูปหน้าของทางคลินิกมี Ulthera, Ultraformer, HIFU Sygmalift, Filler, Botox โดยในแต่ละโปรแกรมคุณหมอจะประเมินความเหมาะสมและความต้องการของคนไข้ ซึ่งโปรแกรมการปรับรูปหน้านั้น คนไข้ควรเข้ามาพบแพทย์เพื่อปรึกษาและให้แพทย์ช่วยประเมินวิธีการรักษาจะดีที่สุดค่ะ
Q : หลังการฉีด Filler, Botox สามารถออกกำลังกายได้ไหม มีข้อห้ามอะไรบ้าง?
A : หลังการฉีด Filler, Botox ควรงดนอนราบเป็นเวลา 4 ชั่วโมง แนะนำให้เลี่ยงกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความร้อนบนใบหน้า เช่น การออกกำลังกายหนักๆ การดื่มแอลกอฮอล์ การซาวด์น่า ฯ ค่ะ
Q : อยากหน้าเรียวแต่กลัวเจ็บ ควรหัตถการไหน?
A : สำหรับคนไข้ที่กลัวเจ็บ แนะนำเป็นโปรแกรม HIFU Sygmalift เป็นโปรแกรมยกกระชับที่เจ็บน้อยกว่าการยกกระชับแบบอื่นๆและคลื่นสามารถลงได้ลึกถึงชั้น SMAS ผลของการรักษาสามารถอยู่ได้ประมาณ 2 - 4 เดือนค่ะ
Q : Botulinum Toxin ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
A : Botulinum Toxin เป็นนวัตกรรมที่นิยมนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหา “ริ้วรอยที่เกิดจากการขยับใบหน้าหรือแสดงอารมณ์” เช่น ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก, บริเวณหางตา, ริ้วรอยหว่างคิ้ว และยังมีผลการวิจัยที่รองรับว่า สามารถใช้ Botulinum Toxin เพื่อลิฟท์กรอบหน้า หรือ ยกกระชับใบหน้าส่วนล่างได้ ทั้งยังสามารถฉีดเข้าชั้นผิวหนัง เพื่อลดรอยแดงของผิว, ลดความมันบนใบหน้า และกระชับรูขุมขน ช่วยในการปรับปรุงคุณภาพผิวแบบองค์รวม ซึ่งทุกการรักษาก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ครับ
Q : ระหว่าง Botulinum Toxin กับ โบบริสุทธิ์^ มีความแตกต่างกันหรือไม่?
A : แตกต่างกันครับ Botulinum Toxin ที่ผ่านการรับรองจาก อย. และได้รับความนิยมในไทย จะมีจุดเด่นและความบริสุทธิ์ของตัวยาที่แตกต่างกันออกไป โดยส่วนใหญ่แล้วจะยังคงหลงเหลือสิ่งเจือปนอย่าง Complexing Proteins หรือ โปรตีนโมเลกุลเชิงซ้อน ที่ไม่ได้จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะ\"ดื้อสารโบทูลินั่มทอกซิน\" หรือภาวะที่ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพลดลง เนื่องจากร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาต่อต้านสิ่งเจือปนที่ตกค้าง\r\nโบบริสุทธิ์^ 0% impurities* จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะ \"ดื้อสารโบทูลินั่มทอกซิน\" ได้มากกว่า Botulinum Toxin แบรนด์อื่นๆ เพราะปราศจากโปรตีนโมเลกุลเชิงซ้อนและสิ่งเจือปน หมอเลยนำมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับโปรแกรม Botulinum Toxin ที่ Smith Prive\' Aesthetique ด้วยครับ
Q : ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด สำหรับการเริ่มฉีด Botulinum Toxin คือเมื่อไหร่?
A : ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ก็คือตอนที่คนไข้มีความเข้าใจในเบื้องต้น และรู้ว่าหัตถการนี้สามารถตอบความต้องการได้อย่างไรบ้าง ลองถามตัวเองก่อนตัดสินใจนะครับ ว่า “ต้องการแก้ปัญหาในเรื่องใด?” รู้หรือไม่ว่าขั้นตอนต่อไปต้องทำอย่างไร?” “ข้อมูลที่ได้รับมานั้น ถูกต้องครบถ้วนหรือเปล่า? รู้จุดที่ต้องการแก้ปัญหาไหม?” “แพทย์ที่ให้คำปรึกษา ได้แนะนำหัตถการทางเลือกอื่นๆ ด้วยหรือไม่?” “รับรู้ถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการรักษาหรือยัง?” หากยังไม่แน่ใจในคำตอบ หมอขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ แล้วเมื่อไหร่ที่คนไข้สามารถคลายข้อสงสัยเหล่านี้ได้ และรู้สึกมั่นใจมากขึ้น เมื่อนั้นแหละครับ คือ \"ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด\" สำหรับการเริ่มฉีด Botulinum Toxin
Q : ขั้นตอนการรักษาโดยคุณหมอโอ๊คเป็นอย่างไร?
A : แนวทางการรักษาของหมอ จะเริ่มจากการให้คำปรึกษาเป็นอันดับแรก เพื่อวิเคราะห์และวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล\r\n\r\nหลังจากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมการ เริ่มจากทำความสะอาดผิว ล้างเมคอัพให้หมดจด เพื่อพิจารณาปัญหาอื่นๆ อย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง และก่อนที่จะเริ่มการรักษา หมอจะให้ทายาชาแทนการใช้น้ำแข็งประคบ เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ\r\n\r\nหลังการรักษา จะมีการจัดให้คนไข้นั่งรอในห้องพักฟื้น เพื่อทำความสะอาดผิวหน้า และทาครีมป้องกันรอยช้ำเป็นขั้นตอนสุดท้าย
Q : คุณหมอโอ๊คมีคำแนะนำอย่างไรบ้าง สำหรับคนที่กลัวว่าผลการรักษาจะดูไม่เป็นธรรมชาติ?\r\n
A : การฉีด Botulinum Toxin แล้วใบหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือที่เรียกกันว่า \"ตึงโบ\" หน้าแข็ง ดูไร้อารมณ์ มักเกิดจากการฉีดในปริมาณที่มากเกินไป หรือฉีดผิดตำแหน่ง ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณข้างเคียงได้รับผลกระทบและเคลื่อนไหวอย่างผิดธรรมชาติ\r\n\r\nทุกครั้งก่อนทำการรักษา หมอจะประเมินใบหน้าคนไข้เป็นรายบุคคล และวางแผนการรักษาอย่างละเอียด เพื่อการฉีด Botulinum Toxin ให้ถูกชั้นกล้ามเนื้อ ในปริมาณที่เหมาะสมตามขนาดและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแต่ละส่วน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติที่สุด\r\n\r\nซึ่งในบางครั้ง ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ด้วย ว่า อยากให้เห็นผลชัดและอยู่ได้นาน หรือ เน้นผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
Q : คุณหมอโอ๊คมีวิธีอย่างไร ที่จะทำให้คนไข้รู้สึกมั่นใจในหัตถการ Botulinum Toxin?\r\n
A : หมอยึดมั่นในเรื่องของการให้ข้อมูลกับคนไข้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็น การแจ้งให้คนไข้ทราบถึงตัวยาและปริมาณที่จะใช้, วันที่ตัวยาหมดอายุ, รวมถึงการแจ้งให้คนไข้ถ่ายภาพหมายเลขล็อตการผลิตเก็บเอาไว้\r\n\r\nอีกหนึ่งสิ่งที่หมอทำมาโดยตลอด คือการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และสื่อต่างๆ เช่น ขั้นตอนการรักษาทั้งหมด หรือ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น และยังมีช่องทางสายด่วนออนไลน์เพื่อให้คนไข้สามารถติดต่อได้ทุกเวลาที่ต้องการ\r\n\r\nความตั้งใจของหมอ คือ อยากให้คนไข้ทุกคนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนเพียงพอ ก่อนที่จะตัดสินใจเข้ารับการรักษาไม่ว่าจะเป็นหัตถการใดก็ตาม
Q : สำหรับคนที่อยากเริ่มต้น ทำหัตถการความงามต่างๆ คุณหมอโอ๊คมีคำแนะนำอะไรบ้าง?
A : อันดับแรก ควรศึกษาทำความเข้าใจในปัญหาผิวของตนเองก่อน และตอบตัวเองให้ได้ว่า “เรากังวลในจุดใด?” “เป้าหมายด้านความงามของเราคืออะไร?” จากนั้นจึงจะสามารถเลือกการรักษาที่เหมาะสมและตอบโจทย์ได้ครับ หากยังมีข้อสงสัยอื่นๆ ที่อยากได้คำตอบ สามารถทำการนัดหมายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โบบริสุทธิ์ 0% impurities หรือ Botulinum Toxin ที่ปราศจากสิ่งเจือปน ได้แล้ววันนี้
